จากสถิติการลงโทษทางวินัยแก่ข้าราชการของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2550 ซึ่งมีข้าราชการทั้งหมดจำนวน 151,770 คน ปรากฏว่ามีผู้ถูกลงโทษ จำนวน 115 คน โดยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน และนักวิชาการสาธารณสุข รวมจำนวน 52 คน สำหรับประเภทของความผิดสูงสุดลำดับที่ 1 นั้น เป็นความผิดเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ มีจำนวน 57 คน พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82(2) บัญญัติไว้ว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ คำว่ากฎหมาย, กฎ คือ กฎหมายหรือกฎ ใดๆก็ได้ ส่วนระเบียบของทางราชการ คือ ระเบียบเฉพาะเรื่อง เช่น ระเบียบเกี่ยวกับการเงินและการพัสดุ เป็นต้น ระเบียบแบบแผนของทางราชการ คือ ระเบียบแบบแผนทั่วไปที่เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปฏิบัติ เช่น ระเบียบลงชื่อมาปฏิบัติราชการ ระเบียบการแต่งกาย และระเบียบการลา เป็นต้น สำหรับความผิดวินัยตามมาตราดังกล่าวมีกรณีตัวอย่างดังนี้
อนามัยในฝัน
นายแห้ว ผู้จัดการร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้องเรียนว่าตนได้รับการติดต่อจากนายเร่ง หัวหน้าสถานีอนามัยตำบลในฝัน ให้ไปวัดพื้นที่เพื่อออกแบบตกแต่งอาคารสถานีอนามัยชั้นล่าง ซึ่งตนได้เสนอแบบพร้อมประเมินราคา ต่อมาได้ทราบว่าสถานีอนามัยดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย และทราบมาว่านายรีบ สาธารณสุขอำเภอ ได้หาช่างมาทำเองเหมือนเป็นผู้รับเหมา จึงขอให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย จากการสอบสวนได้ข้อเท็จจริงว่าสถานีอนามัยตำบลในฝันได้ดำเนินการขออนุมัติปรับปรุงต่อเติมอาคารชั้นล่างสถานีอนามัย โดยมีนายเร่ง เป็นผู้ดำเนินการขออนุมัติในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ และนายรีบ เป็นผู้อนุมัติการซื้อและจ้างปรับปรุงต่อเติมอาคารชั้นล่าง โดยมีการจัดทำบันทึกขออนุมัติ จำนวน 3 ฉบับ ในวันเดียวกัน คือ ฉบับ ที่ 1 ขอติดตั้งม่านปรับแสง จำนวนเงิน 44,000 บาท ฉบับที่ 2 จัดทำตู้เก็บของมีอ่างล้างมือชนิดคู่และชนิดเดี่ยว จำนวนเงิน 17,400 บาท และฉบับที่ 3 ขอติดตั้งผนังกั้นห้องโครงไม้เนื้อแข็งกรุไม้อัดสักแต่งด้วยลามิเนต จำนวนเงิน 93,200 บาท จากการสอบสวนไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่า นายรีบ ใช้อำนาจหน้าที่สั่งให้มีการจัดซื้อจัดจ้างหรือเข้าไปเป็นนายหน้าตามที่ร้องเรียน แต่ในฐานะที่นายรีบ เป็นผู้บังคับบัญชามีอำนาจตามกฎหมายในการอนุมัติให้จัดซื้อจัดจ้างและมีหน้าที่ควบคุม กำกับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการภายใต้การบังคับบัญชาให้ถือปฏิบัติตามระเบียบทางราชการ แต่นายรีบไม่ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มความสามารถ ปล่อยให้ข้าราชการในสังกัดทำการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่มีราคากลางเปรียบเทียบและไม่มีการรับรองแบบแปลนโดยนายช่างของส่วนราชการ ส่วนนายเร่ง นั้น ในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่มีราคากลางเปรียบเทียบและไม่มีการรับรองแบบแปลน พฤติกรรมของนายเร่งและนายรีบ ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือนคนละจำนวน 5% เป็นเวลา 1 เดือน
ทำดีแต่วิธีไม่ถูกต้อง
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ได้รับงบประมาณเพื่อการพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 722,000 บาท นายดี ตำแหน่งสาธารณสุขอำเภอ ได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพสถานประกอบการร้านอาหารและที่พัก โดยในโครงการได้กำหนดกิจกรรม อบรมผู้ประกอบการจำนวน 150 คน เป็นเงิน 287,000 บาท และจัดสรรเพื่อศึกษาดูงานหลังจากอบรมจำนวน 40 คน เป็นเงิน 411,000 บาท ปรากฏว่าหลังจากมีกิจกรรมการอบรมแล้ว ผู้ประกอบการได้แสดงความประสงค์จะไปศึกษาดูงานเพิ่มเติมอีก 50 คน นายดี ได้เปลี่ยนแปลงโครงการโดยไม่ได้เสนอขออนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และเบิกจ่ายเงินโครงการไม่เป็นตามความเป็นจริง โดยเพิ่มจำนวนผู้ไปศึกษาดูงาน จากที่กำหนดในโครงการ คือ 40 คน เป็น 90 คน และทำหลักฐานเบิกจ่ายเงินค่าพาหนะสำหรับผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 150 คน เป็นเงิน 15,000 บาท โดยให้ผู้เข้ารับการอบรมเซ็นชื่อรับเงินแล้วนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูงาน ทำหลักฐานการเบิกค่าเช่าที่พักสำหรับผู้เข้ารับการอบรม 150 คน เป็นเงิน 90,000 บาท แต่จ่ายจริงเพียง 20,000 บาท และนำเงินที่เหลือไปเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูงานของผู้ประกอบการ พฤติกรรมของนายดีดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษภาคทัณฑ์
ซื้อ/จ้าง ผิดระเบียบ
นายเด่น ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานสาธารณสุข 6 ได้ดำเนินการจัดจ้างเหมาก่อสร้างรั้วกั้นด้านหลังและร่องระบายน้ำ ของสถานีอนามัย วงเงิน 83,340 บาท ด้วยเงินบำรุง และในวันเดียวกันนั้นนายเด่น ได้ทำบันทึกขออนุมัติเบิก-จ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง หลังจากนั้นประมาณ 3-4 เดือน คณะกรรมการได้ทำการตรวจรับงานจ้าง กรณีจึงเป็นการจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างก่อนที่งานจะแล้วเสร็จ นอกจากนี้นายเด่น ยังได้ดำเนินการจัดซื้อเครื่องปรับอากาศ ขนาด 25,000 BTU พร้อมติดตั้ง จำนวน 2 เครื่องๆ ละ 42,500 บาท ด้วยเงินบำรุง และเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานราคากลางได้กำหนดราคาไว้ราคาเครื่องละ 33,000 บาท กรณีจึงเป็นการซื้อในราคาที่เกินราคากลางกำหนด ทำให้ราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 19,000 บาท ทั้งนี้ นายเด่น ได้นำเงินจำนวนดังกล่าว คืนให้แก่ทางราชการแล้ว พฤติกรรมของนายเด่น ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 5% เป็นเวลา 1 เดือน
เงินยืมไม่ใช่เงินลืม
นายยืม ตำแหน่งเจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ 5 ได้ทำสัญญายืมเงินบำรุงโรงพยาบาล จำนวนเงิน 7,000 บาท เพื่อดำเนินงานตามโครงการอำเภอห่างไกลสารระเหยและสารเสพติด และเมื่อครบกำหนดส่งคืนเงินตามสัญญายืม นายยืม ก็ยังไม่ส่งคืนเงินยืมหรือหลักฐานการใช้จ่ายเงิน เจ้าหน้าที่การเงินของโรงพยาบาลได้ทวงถามนายยืมหลายครั้ง แต่ นายยืม ก็เพิกเฉย ทางโรงพยาบาลจึงหักเงินเดือนของนายยืม ชดใช้คืนเงินยืมจนครบถ้วน พฤติกรรมของนายยืม ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 5% เป็นเวลา 1 เดือน
เซ็นใบถอนเงินเปล่า
นางถอน ตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัย มีหน้าที่ควบคุมกำกับงานของสถานีอนามัย และเป็นเจ้าหน้าที่การเงิน และเป็นคณะกรรมการเก็บรักษาเงินของสถานีอนามัย ด้วย นางถอน ได้ทำการถอนเงินจากบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ของสถานีอนามัยไปจำนวนเงิน 20,000 บาท 8,500 บาท และ 3,500 บาท ตามลำดับ โดยไม่ได้รับอนุมัติให้จ่ายเงิน และไม่มีหลักฐานการจ่ายไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบตามระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง นอกจากนี้ นางถอน ก็ไม่ได้จัดทำรายงานเงินคงเหลือประจำวันให้เป็นปัจจุบัน และเก็บเงินสดไว้ในมือเกินกว่า 5,000 บาท อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวด้วย สำหรับใบถอนเงินเงินนั้นปรากฏว่านางเชื่อใจ ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน 5 ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามเบิกถอนเงินร่วมกับนางถอน ได้ลงชื่อในใบถอนเงินโดยที่ใบถอนเงินยังไม่ได้กรอกข้อความแต่อย่างใด แล้วมอบให้กับนางถอนไปใช้เบิกถอนเงินจากธนาคาร พฤติกรรมของนางถอน และนางเชื่อ ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่าง ไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือน นางถอน จำนวน 5% เป็นเวลา 2 เดือน และลงโทษภาคทัณฑ์แก่นางเชื่อใจ
โกงแล้วยังทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีก
นายโกง หัวหน้าสถานีอนามัย ได้หลอกลวงนางสาวใจง่าย ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 5 ซึ่งมีอำนาจลงนามใบเบิกถอนเงินร่วมกับนายโกง ว่าให้ลงนามในใบถอนเงินเพื่อจะนำเงินไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของสถานีอนามัย ซึ่งการเบิกถอนเงินแต่ละครั้งนั้น นายโกง ไม่ได้ระบุตัวเลขหรือจำนวนเงินในใบถอนแต่อย่างใด เมื่อลงนามแล้วนายโกง ก็นำไปกรอกจำนวนเงินนำในภายหลัง การที่นางสาวใจง่าย ลงนามในใบถอนเงินทั้งที่ยังไม่ได้กรอกตัวเลข และไม่ได้ขอดูเอกสารหรือตรวจสอบหลักฐานในการเบิกถอนเงินแต่ละครั้ง ก็ด้วยความเกรงใจและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายโกง ปรากฏว่าได้มีการเบิกถอนเงินไปเดือนละประมาณ 2-3 ครั้ง เป็นเวลาประมาณ 1 ปี และนายโกง ได้นำเงินที่เบิกถอนไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว รวมจำนวน 150,000 บาท พฤติการณ์ของนายโกง เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ลงโทษไล่ออกจากราชการ ส่วนพฤติกรรมของนางเชื่อใจ ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือน จำนวน 5% เป็นเวลา 1 เดือน
รับหอผิดที่
นายชม ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 7 และนายชื่น ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 4 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจการจ้าง ติดตั้งหอกระจายข่าว ปรากฏว่า นายชม และนายชื่น ได้ลงนามตรวจการจ้างติดตั้งหอกระจายข่าวซึ่งได้มีการเปลี่ยนสถานที่ติดตั้งไปจากที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง จำนวน 6 แห่ง โดยไม่มีการแก้ไขสัญญาจ้างให้ถูกต้องตามความเป็นจริง พฤติการณ์ของนายชื่น และนายชม ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่าง ไม่ร้ายแรง สมควรลงโทษภาคทัณฑ์ แต่มีเหตุอันควรงดโทษ จึงงดโทษและให้ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
สุดยอด
นายยอด ตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัย ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุไม่เป็นไปตามระเบียบพัสดุ และเบิกเงินบำรุงของสถานีอนามัยไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว คือ 1) ขออนุมัติและถอนเงินบำรุงของสถานีอนามัย จำนวนเงิน 65,000 บาท เพื่อจ้างก่อสร้างป้ายหน้าสถานีอนามัย แต่มีการดำเนินการก่อสร้างจริงหลังจากเบิกเงินไปแล้ว 1 ปี 2) ทำหลักฐานยืมเงิน จำนวน 12,850 บาท แต่ไม่มีหลักฐานการส่งใช้คืนเงินยืม 3) ถอนเงินบำรุง จำนวนเงิน 25,000 บาท อ้างว่าเพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องปริ้นเตอร์ ชนิดหัวเข็ม ยี่ห้อ Epson รุ่น LQ/2081 แต่ไม่ได้ซื้อ ต่อมาเมื่อมีการตรวจสอบจึงได้นำเครื่องปริ้นเตอร์ ยี่ห้อ Epson รุ่น LQ/300 ราคาเพียง 8,900 บาท มาส่งให้กับสถานีอนามัย พฤติการณ์ของนายยอด ดังกล่าว เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และปฏิบัติผิดระเบียบของทางราชการ ลงโทษไล่ออกจากราชการ
ขีดคร่อม แต่ไม่ขีดฆ่าและหรือผู้ถือ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้เข้าไปตรวจสอบระบบการเงินและบัญชีของโรงพยาบาลชุมชนพบว่านางละเลย ตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี 4 ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ คือ มีการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ค่ายาและเวชภัณฑ์ ล่าช้าไม่ตรงตามกำหนด ใบยืมเงินเกินกำหนดชำระและไม่เป็นปัจจุบัน และพบว่ามีการเขียนเช็คจ่ายเงิน ฌกส. ไม่ถูกต้อง โดยเขียนเช็คขีดคร่อม แต่ไม่ขีดฆ่าหรือผู้ถือออก ทั้งนี้ได้มีการ แจ้งให้นางละเลย ทราบและแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ไม่ปรากฏว่ามีเจตนาทุจริตหรือทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ พฤติกรรมของนางละเลย ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือนจำนวน 5% เป็นเวลา 1 เดือน
งานการยุ่งเหยิง
นายยุ่งเหยิง ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน 6 มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านการเงินของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ได้ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ คือ 1) ระบบบัญชีไม่ได้มีการจัดทำบัญชีเงินสด (401) หลายเดือนและไม่ได้ทำรายงานการเงินคงเหลือประจำวัน (407) ไม่ได้ทำทะเบียนคุมเงินเบิกจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอซึ่งเป็นหน่วยงานผู้เบิก 2) ระบบการเงินในการจ่ายเช็คให้เจ้าหนี้ ได้จ่ายเช็คโดยการรวมเงินของเจ้าหนี้หลายรายแล้วออกเช็คใบเดียวในนามของตนเอง ไม่ได้ทำบัญชีคุมเช็คจ่ายเงินทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเช็คที่จ่ายให้เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินได้รับถูกต้องครบทุกคนหรือไม่ และต้นขั้วเช็คไม่ได้กรอกข้อความให้ครบถ้วน ในการจ่ายเช็คไม่ได้จ่ายเงินให้เจ้าหนี้ตามกำหนดเวลาที่เหมาะสมที่กำหนดไว้ และไม่ได้ขีดคร่อมหรือขีดฆ่าหรือผู้ถือออก เมื่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบพบก็ได้แจ้งให้นายยุ่งเหยิง ทราบและแก้ไขให้ถูกต้อง ทั้งนี้ไม่พบว่ามีการมีเจตนาทุจริตหรือทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ พฤติกรรมของนายยุ่งเหยิง ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษตัดเงินเดือนจำนวน 5% เป็นเวลา 2 เดือน
ไม่ได้ตรวจรับจริงแต่ลงชื่อ
นายธง ตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัย นายชัย ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 7 และนายรัตน์ ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน 5 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในการจัดซื้อสิ่งของของสถานีอนามัย จำนวน 3 รายการ คือ การจัดซื้อเครื่องปริ้นเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง การจัดซื้ออุปกรณ์ทำป้ายหน้าสถานีอนามัย และจัดซื้ออุปกรณ์ป้ายหินอ่อน ปรากฏว่าบุคคลทั้งสามได้ลงลายมือในเอกสารการตรวจรับพัสดุโดยที่ได้ไม่ได้ทำการตรวจรับจริง พฤติกรรมของข้าราชการ ทั้ง 3 ราย ดังกล่าว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษภาคทัณฑ์
หักเงินเดือนโดยไม่มีใบยินยอม
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอได้มีการประชุมประจำเดือนของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และที่ประชุมได้มีการตกลงกันว่าให้มีการหักเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ในวันสิ้นเดือนเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการกุศลต่างๆ หรืองานอื่นๆ เช่น งานศพเจ้าหน้าที่ งานวันอาสาสมัครสาธารณสุข งานกีฬาสาธารณสุขจังหวัด งานเลี้ยงรับและส่งข้าราชการในสังกัด และให้ทุกคนถือเป็นมติที่ประชุมว่ายอมให้หักเงินเดือนได้ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอได้ทำการหักเงินเดือนเจ้าหน้าที่ทั้งบนสำนักงานสาธารณสุขอำเภอและเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยตำบลทุกคน โดยจำนวนเงินที่หักจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับงานนั้นๆ โดยเป็นการปฏิบัติที่ทำกันมานานแล้ว ต่อมาว่านายแดง ตำแหน่งสาธารณสุขอำเภอ ได้หักเงินเดือนของนายดำ ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน 6 จำนวน 10 เดือน รวมเป็นเงินจำนวน 2,049 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่ากิจกรรมต่างๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากนายดำ ซึ่งนายแดง รับว่าตนได้หักเงินเดือนของนายดำ จริงและไม่ได้หักเงินเดือนเฉพาะนายดำ เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่จะหักเงินเดือนเจ้าหน้าที่ทุกคน และรวมทั้งของตนเองด้วย ทั้งนี้เนื่องจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอไม่มีรายได้ใดๆ และที่ผ่านมาก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดขัดข้องหรือมีปัญหา พฤติกรรมของนายแดง ที่หักเงินเดือนของเจ้าหน้าที่โดยที่ไม่มีใบยินยอมให้หักเงิน นั้น ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ลงโทษภาคทัณฑ์
เอามาฝากครับ