หัวข้อ: ทำอะไรก็ไม่ผิด คือไม่คิดทำอะไรเลย เริ่มหัวข้อโดย: tanasith ที่ มกราคม 23, 2011, 01:38:44 am Do No Wrong is Do Nothing
------------------------------------------- สักวา น่าคิด ผิดเป็นครู เตือนให้รู้ แน่วแน่ ต้องแก้ไข แต่มิใช่ เมื่อผิด คิดโยนบาปอยู่ร่ำไป นำอดีต มาใช้ เป็นอาจารย์ คนไม่ทำ อะไร ก็ไม่ผิด แต่หมดสิทธิ์ จะเอา มาเล่าขาน หมดโอกาส พานพบ ประสบการณ์ ไม่ช้านาน เฉาตาย อายควายมัน หัวข้อ: Re: ทำอะไรก็ไม่ผิด คือไม่คิดทำอะไรเลย เริ่มหัวข้อโดย: tanasith ที่ มกราคม 23, 2011, 02:03:34 am คนชอบแก้ตัว
------------------------------------ มีลักษณะนิสัยอยู่สองประเภทที่ค่อนข้างพบได้ง่ายในสังคม คือ นิสัยชอบแก้ตัวที่มักทำเพื่อปกป้องตัวเองให้พ้นผิด และนิสัยชอบโทษคนอื่นเพื่อปัดความรับผิดชอบ สาเหตุมักเกิดจากการเรียนรู้ตั้งแต่สมัยยังเด็ก ถ้าทำผิดต้องรีบแก้ตัว ไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษ จึงเรียนรู้ว่าต้องแก้ตัวเพื่อเอาตัวรอด หรือไม่ก็เกิดจากการเลียนแบบผู้ใหญ่มาตั้งแต่เด็ก สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ กลัวจะถูกคนอื่นมองว่าไม่ดี ก็เลยต้องรีบหาทางแก้ตัว หรือโทษผู้อื่นเสียก่อน บางกรณีอาจเกิดจากปมด้อยในใจ รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ เมื่อมีปมด้อย ก็เลยทำให้เกิดความรู้สึกไวและกระทบใจได้ง่ายหากมีใครสักคนว่ากล่าว ทำให้ต้องรีบแก้ตัวเพื่อปกป้องตัวเองขึ้นมาทันที การแก้ไข อาจให้คนใกล้ชิดช่วยแก้ไข หรือคุณจะแก้ไขด้วยตัวเองก็ได้ ถ้าคุณยอมรับได้และคิดว่าอยากจะพัฒนาตัวเอง ก็อาจให้คนอื่นช่วยเตือน ทุกครั้งที่คุณพูดแก้ตัว เพื่อจะได้หยุดและหันมาคิดหาทางแก้ไข แทนที่จะแก้ตัวและโทษคนอื่น ถ้าคุณคิดจะแก้ไขด้วยตัวเอง ให้คุณพยายามบอกกับตัวเองว่า การแก้ตัวและการโทษคนอื่นเป็นนิสัยของเด็ก ๆ ที่ไม่มีใครชอบ ถ้าอยากให้ใคร ๆ มองว่าคุณมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ และมีความมั่นคงทางอารมณ์ก็จงหยุดนิสัยเหล่านั้นเสีย พยายามเตือนสติตัวเองบ่อย ๆ นอกจากนั้น ให้รู้จักหัดชมคนอื่นบ้าง ใครว่าอะไรมาแทนที่จะรีบแก้ตัวก็ชมเขากลับไปเลยว่าเป็นความคิดหรือเป็นข้อเสนอแนะที่ดี คุณจะได้รู้จุดอ่อน หรือข้อบกพร่องของคุณในสายตาของคนอื่นเพื่อคุณจะได้นำไปปรับปรุงต่อไป แต่ถ้าคุณยังติดนิสัยชอบแก้ตัว ชอบโทษผู้อื่นอยู่ หรืออยากแก้นิสัยคนใกล้ตัว ทั้ง ๆ ที่ใช้วิธีการที่ให้แล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จสักที ก็สามารถโทรมาปรึกษาได้ที่หมายเลข 02-526-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง หัวข้อ: Re: ทำอะไรก็ไม่ผิด คือไม่คิดทำอะไรเลย เริ่มหัวข้อโดย: tanasith ที่ มกราคม 23, 2011, 02:05:45 am คนเรามีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและผลักไสความผิดของตัวเองไปให้ไกลติดตัวมาตั้งแต่เกิด เมื่อไหร่ก็ตามที่แต่ละคนค้นเจ้าสัญชาตญาณนี้จนเจอ คุณก็มักจะติด (addict) และใช้มันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนเรียกได้ว่าเป็นนิสัย ต่อมาพอหนักข้อขึ้น ก็เกิดเป็นปัญหาค้างคาใจว่าทำไมถึงเลิกไม่ได้เสียที
คุณเป็นคนประเภทอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อแก้ตัวหรือเปล่า... ถ้าไม่ใช่จริงๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใช่แล้วยังแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ด้วยการชักแม่น้ำทั้งห้ามาช่วยเพื่อปัดปัญหาทั้งหมดให้คนอื่นรับรับช่วงไป เพื่อนร่วมงานคนไหนจะอยากทนอยู่กับคุณ นี่คือ 10 ขั้นตอนไม้ตายที่จะทำให้นักปัดความรับผิดชอบกลายเป็นสุภาพบุรุษคนใหม่ ที่กล้าจะยกธงขาว ค้างไว้ แล้วพูดว่า โอเค ผมพลาดเอง 1. สังเกตพฤติกรรมตัวเอง : ลองสังเกตดูว่า คุณปัดความผิดของคุณเองและโยนให้คนอื่นบ่อยแค่ไหน ยิ่งถ้าคุณอยู่ในฐานะหัวหน้าหรือหัวเรือใหญ่คงไม่มีใครอยากทำงานกับเจ้านายที่ชอบโยนความผิดให้กับลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานแน่ๆ 2. กล้ารับความจริง : เหมือนกับการแก้ไขนิสัยอันไม่พึงประสงค์ทั่วไป ไม้ตายที่สองที่ควรงัดมาใช้ ก็คือการเปิดใจยอมรับความจริงว่าคุณเป็น ผู้ใหญ่มีปัญหา อย่ามัวแต่วางเฉย ผัดวันประกันพรุ่ง หรือเอาแต่ปล่อยให้เวลาคลี่คลายปัญหาทุกอย่างเอง 3. ยอมรับคำวิจารณ์เก่าๆ : นอกจากยอมรับความจริงแล้ว ใช่ครับ คุณต้องยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ ผ่านมาด้วย อย่างไรเสียก็อย่าปล่อยให้มันเข้ามาทำลาย Self-esteem หรือทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจมากเกินไปจนกลายเป็นคนที่มีจิตใจไม่มั่นคง ถูกครอบงำได้ง่าย และสุดท้ายก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง 4. ทลายกำแพงให้ได้ : ถ้าในยิมที่เราเล่นอยู่เดิมมีคนเล่นเยอะ แพง แถมที่จอดรถยังสุดแสนจะห่วย จงหาที่ใหม่และหาแรงจูงใจในการเปลี่ยนนิสัยให้ได้ เช่นเดียวกันกับการปรับตัวสู่พฤติกรรมที่เป็นเรื่องท้าทาย จงกล้าที่จะทลายกำแพงเดิมๆ ให้ได้ แล้วหาทางออกด้วยวิธีการใหม่ๆที่ห่างไกลจากวิธีเดิมในทันที 5. อย่ากลัวเสียหน้า : หยุดพารานอยด์ อย่ากลัว และกล้าที่จะเสียหน้าเมื่อต้องทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับที่คุณเคยทำและเคยเป็น 6. สร้างมาตรฐานของคุณขึ้นมา : เมื่อเริ่มตระหนักได้ว่าการแก้ตัวมีโทษหนักเท่ากับการกล่าวอ้างหรือ การพูดโกหก คุณอาจจะสร้างมาตรฐานของตัวเองขึ้นมาว่า ในช่วงแรกคุณสามารถหลุดออกนอกกรอบหรือนอกแถวได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก่อนจะเข้าสู่ขั้น Advance ที่ไม่มีการแต่งเติมบทสนทนาและทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกอึดอัดใจกับคุณน้อยลง 7. ใช้สูตรการเล่นใหม่ Speak, then shut up : เรียนรู้ที่จะกล่าวคำขอโทษโดยปราศจากข้อแก้ตัวพ่วงท้าย สิ่งที่คุณควรจะพูดออกมาคือคำขอโทษแค่เพียงอย่างเดียว แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่คุณไม่ผิด คุณก็สามารถที่จะถกเถียงด้วยเหตุผลโดยไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืดใดๆ 8. บำบัดกลุ่มด้วยการหากระจกสะท้อน : เราไม่ได้บังคับให้คุณเข้าคอร์สบำบัดอาการชอบแก้ตัวที่ไหน เพราะถ้าจะพูดกันตามนิสัยของคนไทย ไม่มีใครอยากจะยอมให้คนแปลกหน้าเข้าหาจุดบกพร่องของตัวเองในวงสนทนา แต่นี่เป็นวิธีการที่เรียกว่า ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ โดยสิ่งที่คุณจะสามารถทำได้คือการสังเกตพฤติกรรมของคนที่มีนิสัยคล้ายๆ กัน แล้วคุณจะพบว่าคุณคนเดิมในอดีตนั้นช่างไม่น่าคบเอาเสียเลย 9. ขอให้คนรอบข้างช่วย : เคยใช้วิธีนี้ไหมครับ ขอให้เพื่อนนัดเวลาคุณก่อนเพื่อนคนอื่นๆ สักประมาณ ครึ่งชั่วโมง ในกรณีที่คุณมักจะมาสายและมาเป็นคนสุดท้ายเมื่อทุกคนรวมตัว เรื่องนิสัยแก้ตัวก็เหมือนกันคุณคงต้องขอให้เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานที่น่าไว้ใจช่วยกันจับตามองว่าคุณมีวิธีการเลือกที่จะใช้เหตุผลในการแก้ตัวอย่างไร เป็นเหตุเป็นผลไหม หรือโยนความผิดให้ใครไปบ้างในแต่ละวัน 10. เซ็นสัญญากับตัวเอง : พิมพ์หรือเขียนเป้าหมายคุณลงในกระดาษ กำหนดเดดไลน์ พร้อมทั้งลงวันที่ และเซ็นชื่อว่าคุณจะต้องทำให้ได้ โดยที่อาจจะมีเพื่อนสักคนมามาช่วยเซ็นรับรอง เครดิต : http://www.pattanakit.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=5344989&Ntype=128 (http://www.pattanakit.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=5344989&Ntype=128) หัวข้อ: Re: ทำอะไรก็ไม่ผิด คือไม่คิดทำอะไรเลย เริ่มหัวข้อโดย: KHONNOUNG ที่ มกราคม 24, 2011, 07:25:16 pm เป็นซะอย่างนี้ :(
หัวข้อ: Re: ทำอะไรก็ไม่ผิด คือไม่คิดทำอะไรเลย เริ่มหัวข้อโดย: KHONNOUNG ที่ มกราคม 24, 2011, 07:29:50 pm คนชอบแก้ตัว ------------------------------------ มีลักษณะนิสัยอยู่สองประเภทที่ค่อนข้างพบได้ง่ายในสังคม คือ นิสัยชอบแก้ตัวที่มักทำเพื่อปกป้องตัวเองให้พ้นผิด และนิสัยชอบโทษคนอื่นเพื่อปัดความรับผิดชอบ แต่ถ้าคุณยังติดนิสัยชอบแก้ตัว ชอบโทษผู้อื่นอยู่ หรืออยากแก้นิสัยคนใกล้ตัว ทั้ง ๆ ที่ใช้วิธีการที่ให้แล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จสักที ก็สามารถโทรมาปรึกษาได้ที่หมายเลข 02-526-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง เอ...นี่มันนิสัยเรานี่หว่า โทรไปปรึกษาได้ไหม เนี่ย แบบว่า อยากลองดูน่ะ อย่าไปบอกใครนะ จะลองโทรไปซะหน่อย.... |